สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมก็เห็นใจนะครับ เพราะผมก็เป็นคนนอนกรนมากๆ ที่สำคัญผมกัดฟันไปด้วยอีกต่างหาก
สงสารภรรยาสุดๆเลย ตอนนี้ผมเลยแยกห้องมานอนครับ ไม่เคยนอนด้วยกันมาสิบปีแล้ว
แต่เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ อันนี้ผมสงสารเขาสุดเลย
ถ้าไปนอนเต้นท์ ผมซื้อเต้นท์สองหลังแยกกันไปเลย ให้แฟนนอนกับลูก ส่วนผมหนีไปนอนห่างๆ
เวลาไปเที่ยวที่ไหนผมไม่เคยได้นอนบนเตียงครับ ทุกครั้งผมจะเอาผ้าเอาเสื้อมาปูนอนที่พื้น
พอถึงเวลา 2-3 ทุ่มผมก็จะออกนอกห้องไปเดินเล่นทุกคืน ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ประเทศไหน ผมก็ต้องออกไปเดินเล่นทุกคืนครับ
อ้างไปงั้นแหล่ะว่าอยากเดินเล่นถ่ายรูป แต่จริงๆผมกลัวแฟนกับลูกนอนไม่หลับมากกว่า ผมจะกลับมาตอนตีหนึ่งขึ้นไป
กะเวลาแล้วว่าเขาหลับกันสนิทแล้ว แล้วค่อยมานอน
ล่าสุดไปเที่ยวญี่ปุ่นซึ่งห้องมันเล็กมากๆ ผมกลับมาประมาณตีหนึ่งครึ่ง แล้วก็รีบนอน ประมาณตีห้าสิบนาทีแฟนผมก็สะกิดบอกว่าผมกรนดังมาก
ผมก็รู้ตัวครับเพราะแฟนผมนอนไม่หลับ เห็นเขานั่งอยู่บนเตียง ก็เลยตื่นเลยแล้วก็เดินออกนอกห้องไปเดินเล่นที่วัดนาริตะอีกรอบ
กลับมาก็ตามโปรแกรมที่วางไว้ แล้วก็ไปเที่ยวต่อ
ผมลดน้ำหนักลงมาได้ 8 กก. เพราะคิดว่ามันมีส่วนในการนอนกรน แต่ป่าวเลยผมก็ยังกรนอยุ่ดี
คืนที่สองเราไปนอนอีกโรงแรมนึง ซึ่งถ้าค่าห้องมันไม่แพงเหมือนในเมืองไทย ผมก็คงจองห้องสองห้องไปแล้ว
คืนนี้ห้องนอนเป็นแบบฟูกญี่ปุ่น ผมใช้วิธีเอากระเป๋าเดินทางมาวางไว้ข้างๆตัว แล้วนอนตะแคง จากนั้นก็เอาผ้าห่มคลุมหัวให้มิด
ก่อนนอนก็ตั้งใจไว้ว่าเราจะไม่กรน อ้อ...ผมใช้วิธีบริหารลิ้นก่อนนอนด้วยครับ เหมือนเราออกกำลังกายด้วยลิ้นอ่ะ เพราะคิดว่าที่เรากรน
เป็นเพราะลิ้นแน่ๆ แน่นอนว่าคืนนี้ผมก็ออกไปเดินเล่นแถวๆทะเลสาบซึ่งมันหนาวมากแล้วผมก็ไม่ได้เตรียมชุดกันหนาวไปด้วย มีแค่
เสื้อแขนยาวตัวเดียวแค่นั้น เมื่อหนาวจนทนไม่ไหวก็ไปซื้อโอเด้งมากินแก้หนาว พอได้เวลาก็หลับมานอน
เช้าวันรุ่งขึ้นแฟนบอกว่าผมกรนนิดหน่อยไม่มากเหมือนก่อนแล้ว แสดงว่าการนอนตะแคงจะช่วยลดการกรนครับ
เขียนมาซะยาว จะสื่อแค่นี้แหล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
***** tex *****
สงสารภรรยาสุดๆเลย ตอนนี้ผมเลยแยกห้องมานอนครับ ไม่เคยนอนด้วยกันมาสิบปีแล้ว
แต่เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ อันนี้ผมสงสารเขาสุดเลย
ถ้าไปนอนเต้นท์ ผมซื้อเต้นท์สองหลังแยกกันไปเลย ให้แฟนนอนกับลูก ส่วนผมหนีไปนอนห่างๆ
เวลาไปเที่ยวที่ไหนผมไม่เคยได้นอนบนเตียงครับ ทุกครั้งผมจะเอาผ้าเอาเสื้อมาปูนอนที่พื้น
พอถึงเวลา 2-3 ทุ่มผมก็จะออกนอกห้องไปเดินเล่นทุกคืน ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ประเทศไหน ผมก็ต้องออกไปเดินเล่นทุกคืนครับ
อ้างไปงั้นแหล่ะว่าอยากเดินเล่นถ่ายรูป แต่จริงๆผมกลัวแฟนกับลูกนอนไม่หลับมากกว่า ผมจะกลับมาตอนตีหนึ่งขึ้นไป
กะเวลาแล้วว่าเขาหลับกันสนิทแล้ว แล้วค่อยมานอน
ล่าสุดไปเที่ยวญี่ปุ่นซึ่งห้องมันเล็กมากๆ ผมกลับมาประมาณตีหนึ่งครึ่ง แล้วก็รีบนอน ประมาณตีห้าสิบนาทีแฟนผมก็สะกิดบอกว่าผมกรนดังมาก
ผมก็รู้ตัวครับเพราะแฟนผมนอนไม่หลับ เห็นเขานั่งอยู่บนเตียง ก็เลยตื่นเลยแล้วก็เดินออกนอกห้องไปเดินเล่นที่วัดนาริตะอีกรอบ
กลับมาก็ตามโปรแกรมที่วางไว้ แล้วก็ไปเที่ยวต่อ
ผมลดน้ำหนักลงมาได้ 8 กก. เพราะคิดว่ามันมีส่วนในการนอนกรน แต่ป่าวเลยผมก็ยังกรนอยุ่ดี
คืนที่สองเราไปนอนอีกโรงแรมนึง ซึ่งถ้าค่าห้องมันไม่แพงเหมือนในเมืองไทย ผมก็คงจองห้องสองห้องไปแล้ว
คืนนี้ห้องนอนเป็นแบบฟูกญี่ปุ่น ผมใช้วิธีเอากระเป๋าเดินทางมาวางไว้ข้างๆตัว แล้วนอนตะแคง จากนั้นก็เอาผ้าห่มคลุมหัวให้มิด
ก่อนนอนก็ตั้งใจไว้ว่าเราจะไม่กรน อ้อ...ผมใช้วิธีบริหารลิ้นก่อนนอนด้วยครับ เหมือนเราออกกำลังกายด้วยลิ้นอ่ะ เพราะคิดว่าที่เรากรน
เป็นเพราะลิ้นแน่ๆ แน่นอนว่าคืนนี้ผมก็ออกไปเดินเล่นแถวๆทะเลสาบซึ่งมันหนาวมากแล้วผมก็ไม่ได้เตรียมชุดกันหนาวไปด้วย มีแค่
เสื้อแขนยาวตัวเดียวแค่นั้น เมื่อหนาวจนทนไม่ไหวก็ไปซื้อโอเด้งมากินแก้หนาว พอได้เวลาก็หลับมานอน
เช้าวันรุ่งขึ้นแฟนบอกว่าผมกรนนิดหน่อยไม่มากเหมือนก่อนแล้ว แสดงว่าการนอนตะแคงจะช่วยลดการกรนครับ
เขียนมาซะยาว จะสื่อแค่นี้แหล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
***** tex *****
แสดงความคิดเห็น
ผู้หญิงที่มีสามีนอนกรนที่สุดใน 3 โลก มีวิธีแก้ไขยังไงค่ะ
ส่วนตัวเองไม่ไหวเลยค่ะ ไม่ได้นอนเลย บางคืนฝันว่ามีคนมาตัดหญ้าข้างบ้าน บางคืนฝันว่าอยู่ในสนามรบ บลาๆๆ แล้วต้องตื่นมาทำงานแต่เช้า โคตรโมโหเลยค่ะ